30 ไม่คิด 40 ไม่เก็บ 60 ใครจะเลี้ยง
มนุษย์เรามีระยะเวลาในการทำงานหาเงินจริงๆก็ช่วง 20 - 60 ปี หรือเป็นระยะเวลากว่า 40 ปีในการทำงาน อาจจะเหมือนจะนาน แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การเงินเอย เพื่อนเอย ครอบครัวเอย ทำให้เวลาเหล่านี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเราไม่ทันคาดคิดว่าเรายังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมเลย
ในตอนนี้เราอจจะคิดว่า ไม่เป็นไร ปีหน้าเราค่อยเก็บ พอถึงปีถัดมา เราก็จะถัดไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราไม่รู้ตัว เราอาจจะเริ่มเก็บเงินตอนที่สายไปแล้วก็ได้
มีวิธีคิดง่ายๆนะคะ
สมมติว่า นางสาวเอ และ นายบี ต้องการเงินเงิน 2,000,000 บาท ไว้ใช้ในการเกษียณ โดยทั้งสองจะทะยอยเก็บเงินในทุกๆปีที่เท่ากัน และมีรายได้ที่เท่าๆกัน (ไม่รวมถึงดอกเบี้ยในการออมและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนะคะ เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายๆ)
นางสาวเอ เริ่มเก็บตั้งแต่อายุ 25 ปี จนถึงอายุ 60 ปี เท่ากับว่านางสาวเอ มีระยะเวลาในการเก็บเงินทั้งสิ้น 35 ปี เท่ากับเก็บเฉลี่ยปีละ 57,142 บาท หรือ เฉลี่ยเดือนละ 4,761 บาท
ในขณะที่ นายบี เริ่มที่จะเก็บเงินเมื่อตอนอายุได้ 40 ปี จนถึงอายุ 60 ปี นายปี มีระยะเวลาเก็บเงินที่ 20 ปี เท่ากับเฉลี่ยปีละ 100,000 บาท หรือ เฉลี่ยเดือนละ 8,333 บาท
สรุปว่า ในเป้าหมายการออมที่เท่ากัน หากใครเริ่มก่อน คนนั้นจะสบายกว่าในการแบ่งเงินมาในส่วนนี้ โดยไม่เบียดเบียนเงินก้อนอื่นในภายหลัง
?? แล้วทำไมเราต้องวางแผนการเกษียณละ ??
หลายคนอาจจะเคยได้ยิน แต่ไม่เข้าใจในเรื่องของเงินเฟ้อ วันนี้ทางเราจะลองยกตัวอย่างง่ายๆให้ลองอ่านดูนะคะ
"ในสมัยก่อนราคาก๋วยเตี๋ยวนั้น จะอยู่ที่ชามละ 20 บาท แต่ในปัจจุบันราคาจะอยู่ที่ชามละ 40 บาท เงินที่ใช้จ่ายต่อวันเพิ่มขึ้นจากเมื่อสมัยก่อน จะเห็นได้ว่าเงิน 100 บาท ในสมัยก่อนนั้นสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ 5 ชาม แต่ปัจจุบันสามารถซื้อได้แค่ 2 ชาม เท่านั้นเอง แสดงให้เห็นว่า เงินที่เท่ากันนั้น ไม่สามารถซื้อสินค้าในปริมาณเดิมได้อย่างแน่นอน "
เฉลี่ยแล้วอัตราเงินเฟ้อบ้านเรา จะเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 3-4 % ต่อปี ดังนั้นหากท่านมี 1,000 บาท ณ วันนี้ อีก 20 ปี ข้างหน้าค่าเงินของ 1,000 บาทของท่าน จะมีมูลค่าแท้จริงเพียงแค่ 554 บาทเท่านั้นเอง
ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ หรือ ไลฟ์สไตล์ของคนเราที่เริ่มรักสุขภาพมากขึ้น สามารถพบเห็นได้จากเทรนด์นิยมการกินอาหารคลีน การออกกำลังกาย ที่กำลังแพร่หลายในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้ ส่งผลให้กับค่าเฉลี่ยของอายุขัยคนเรามีความยืนยาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับอายุขัยเฉลี่ยในอดีต
"สิ่งเหล่านี้เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในเรื่องเดียวกัน กล่าวคือหากท่านมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการเกษียณที่มากพอ นี่ถือว่าเป็นข่าวดีที่ท่านจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและเป็นอิสระในช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันหากท่านไม่ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการวางแผนการเกษียณที่มากพอ เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นข่าวร้ายที่ท่านต้องพยายามหาเงินมาใช้ในช่วงเวลาที่มากขึ้นในเวลาที่ท่านควรจะเกษียณการทำงานได้แล้ว"